หลายคนอาจผิดหวังจากแพลนเที่ยวปลายปีด้วยสาเหตุที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว แต่อย่ามัวฟูมฟายเสียดายอยู่เลยจ้า เพราะบ้านเราน่ะมีพิกัดให้เที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี วันนี้เราเลยขอรวม 30 พิกัดที่เที่ยวแบบไม่ต้องแคร์ฤดูกาลมาให้ลองพิจารณา ว่างเมื่อไหร่ก็จองตั๋วเครื่องบินในประเทศไปลั้ลลากันได้เลยเด้อ อยากไปเยือนภาคเหนือ อีสาน กลาง หรือใต้ ก็จัดหนักกันไปเลยจ้า แค่จองตั๋วเครื่องบินในประเทศราคาดีที่เว็บไซต์ Traveloka ก็แพ็คกระเป๋าไปเที่ยวกันในราคาประหยัดได้เลย!
30 ที่เที่ยวไทยเที่ยวได้ตลอดปี
1. ภูทอก – บึงกาฬ
สำหรับสายบุญที่ชอบไหว้พระแบบสงบไม่วุ่นวาย และที่สำคัญคือข้อเข่ายังต้องใช้การได้ดีอยู่ด้วยนะ ขอแนะนำให้ไปเดินตามเส้นทางเลาะริมผาที่สร้างขึ้นจากพลังศรัทธาของชาวบ้านธรรมดาๆ นี่ละ ที่นี่คุณจะได้วัดใจกับการเดินตามสะพานไม้ที่สร้างขึ้นบนหน้าผาที่บอกเลยว่าแค่มองก็เสียวแล้ว! แม้การมาในช่วงอากาศเย็นๆ จะถือว่าฟินแบบสุดๆ เชียวนะ แต่ถ้าใจเราศรัทธา จะร้อน ฝน หรือหนาว ก็มาได้โลดเด้อ อ้อ … ทุกวันที่ 10 – 16 เมษายนเค้าปิดนะจ๊ะ นอกนั้นมาได้ตลอดเลย
2. เชียงคาน – เลย
ไปเที่ยวต่างประเทศกันยังไม่ได้ ก็จองตั๋วเครื่องบินในประเทศกันก่อนแล้วกัน เพราะที่เลยก็มีสนามบินด้วยเช่นเดียวกัน เมืองเก่าบรรยากาศสุดคลาสสิกริมแม่น้ำโขง ที่สองฝั่งถนนสายเล็กๆ นั้นเต็มไปด้วยบ้านไม้สไตล์ท้องถิ่นยาวเป็นพรืดไปตลอดเส้นทาง เชียงคานนั้นให้บรรยากาศสงบสบายและแสนจะเป็นกันเองแบบสุดๆ เลยละ สายกินมาที่นี่รับรองว่าจุกแน่ เพราะละแวกนี้เต็มไปด้วยของอร่อยสไตล์ท้องถิ่นสารพัดเมนู แน่นอนว่าหน้าหนาวคือช่วงพีคของที่นี่ แต่ถ้าอยากมาเสพบรรยากาศสงบๆ กันให้เต็มที่ จองตั๋วเครื่องบินในประเทศมาเชียงคานในฤดูอื่นเลยจ้า รับรองว่าไม่แออัดแน่นอน
3. วัดพระแก้ว – กรุงเทพฯ
วัดหลวงซึ่งเป็นจุดรวมใจของชาวไทยทั้งประเทศ วัดพระแก้วนั้นทั้งเก่าแก่และเป็นแหล่งรวมผลของช่างฝีมือโบราณหลายแขนงของไทยเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ชนิดที่ชาวต่างชาติคนไหนมาเมืองไทยแล้วไม่ได้มาที่นี่ ก็เหมือนว่ายังเที่ยวไทยได้แบบไม่เต็มที่นั่นละ แล้วบอกเลยว่าถ้ามาเที่ยววัดพระแก้วในช่วงนี้จะพีคมาก เพราะไม่ต้องเบียดเสียดแออัดกับผู้คนจากทั่วโลกด้วยนะ ถ้าพลาดไปไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เที่ยววัดพระแก้วสบายๆ แบบนี้อีกน้า อย่ารอนาน!
4. เสม็ดนางชี – พังงา
นี่คือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งได้ชื่อว่าสวยที่สุดของจังหวัดพังงา ซึ่งคุณได้เห็นทิวทัศน์ตรงหน้าแบบพาโนรามาจนจุใจ ไม่ว่าจะเป็นผืนป่าสีเขียวหนาแน่น ที่มองเลยออกไปจะเห็นท้องทะเลซึ่งมีภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตากระจายตัวอยู่กลางน้ำอย่างน่าประทับใจ ช่วงเช้าของที่นี่สวยเต็มตาในทุกฤดูกาลเลยจ้า จะมากางเต็นท์นอนแบบลุยๆ สบายๆ หรือจะพักในรีสอร์ทสวยหรูดูดีก็ได้ตามใจ เลือกแล้วก็จองตั๋วเครื่องบินในประเทศไปเช็คอินกันได้แบบด่วนๆ เลย
5. วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ – ลำปาง
เป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของเมืองรถม้าที่มาแล้วควรต้องได้เห็นเลยนะ กับเจดีย์ลอยฟ้าบนยอดเขาที่มองแล้วต้องงงว่าขึ้นมาสร้างกันได้ยังไง! แต่ก็อย่างที่รู้กันละว่าพลังแห่งศรัทธาน่ะทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว จริงมั้ย? และแม้ว่าไฮซีซั่นของที่นี่จะเป็นหน้าหนาวที่อากาศเย็นสบาย แต่การมาชมช่วงหน้าฝนก็อาจจะได้รางวัลตอบแทนเป็นทะเลหมอกหนาๆ หรือช่วงหน้าร้อนก็อาจจะได้เจอกับความสงบกันชนิดที่หาไม่ได้ในช่วงอื่นเลยนะ เลือกเอาเลยจ้าว่าพร้อมช่วงไหน
6. อำเภอปัว – น่าน
อำเภอสีเขียวซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมืองน่านที่มาแล้วจะมองผ่านไปซะไม่ได้ ใครๆ ก็รู้ละนะว่าอำเภอปัวจะสวยแบบสุดๆ ในช่วงฤดูฝนซึ่งที่นี่จะถูกเคลือบคลุมไปด้วยทุ่งข้าวเขียวขจีแสนจะสบายตา ส่วนหน้าหนาวนั้นก็ถือว่าเป็นไฮซีซั่นที่หลายคนอยากมาสัมผัสกับอากาศเย็นสบาย หน้าร้อนนั้นแม้จะไม่เย็นเจี๊ยบสะใจ แต่ก็จะมีลมเอื่อยๆ พัดโชยให้ได้สดชื่นกันตลอดเวลา แถมยังได้เสพบรรยากาศที่สงบสบายไม่แออัดอีกด้วยนะ ไปช่วงไหนก็ชิลล์ทั้งนั้นจ้าสำหรับอำเภอนี้
7. ดอยอินทนนท์ – เชียงใหม่
จุดเช็คอินสูงสุดในประเทศไทย ที่บอกได้เลยว่าไม่ว่าจะมาช่วงไหนก็ได้สัมผัสกับความสดชื่นของอากาศเย็นๆ ทั้งปีไปเลยจ้า ต่างกันตรงที่ว่าจะเย็นมากหรือเย็นน้อยก็เท่านั้น มาที่นี่ที่เดียวคือเที่ยวกันได้ทั้งวันไปเลยละ ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมป่าดึกดำบรรพ์ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาและกิ่วแม่ปาน ไปกราบนมัสการพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งสององค์พร้อมเดินชมสวนดอกไม้ที่อยู่รอบๆ ไหนยังจะโครงการหลวง นาขั้นบันได หรือถ้าชอบน้ำตกก็มีให้เช็คอินกันหลายแห่งเลยละ จองตั๋วเครื่องบินในประเทศพุ่งตรงมาเลยจ้า จะโลว์จะไฮก็เที่ยวได้ชิลล์ๆ ทั้งปีแน่นอน
8. เกาะแสมสาร – ชลบุรี
อยากสัมผัสน้ำทะเลสีฟ้าใสหรือเดินเล่นบนชายหาดที่เม็ดทรายขาวละเอียดนุ่มเท้า แต่งบในกระเป๋าไม่เป็นใจให้เดินทางไกล เชื่อว่าที่นี่จะเป็นตัวเลือกที่ไม่ทำให้ผิดหวังแน่ๆ จะเล่นน้ำหรือดำน้ำก็ทำได้หมดที่เกาะนี้แหละเด้อ แถมยังไม่แออัดด้วยนะเพราะเค้าจำกัดนักท่องเที่ยวในแต่ละวันกันด้วยจ้า เนื่องจากกองทัพเรือซึ่งเป็นผู้ดูแลรักษาเกาะเค้าไม่อยากให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมเร็วเกินไป แถมทะเลฝั่งนี้ยังไม่ค่อยมีมรสุมรุนแรงซักเท่าไหร่ด้วยนะ มั่นใจได้เลยว่าจะฤดูไหนก็เที่ยวได้ชิลล์ๆ แน่นอน
9. ปาย – แม่ฮ่องสอน
เมืองเล็กๆ บรรยากาศสบายๆ ในอ้อมกอดของขุนเขาแห่งนี้ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของเมืองปายที่ยังไงก็ต้องมาให้ถึง ฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงพีคนั้นแม้จะอากาศเย็นสบายแต่ก็ต้องเจอกับนักท่องเที่ยวมากมายที่ใจตรงกันเลยละ ถ้าอยากได้ความชิลล์ขั้นสุดที่ไม่แออัดนักนะ แนะนำว่าหน้าฝนก็น่าสนใจเพราะจะได้ฟีลไปอีกแบบ ส่วนหน้าร้อนนั้นก็เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากปลีกวิเวกซักหน่อยนะ เพราะที่นี่จะสงบขั้นสุดไปเลยจ้า เลือกมาได้เลยตลอดทั้งปี
10. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย – สุโขทัย
มั่นใจว่าใครที่หลงรักประวัติศาสตร์คงไม่ยอมพลาดที่นี่แน่ๆ เพราะในพื้นที่กว้างใหญ่ของอุทยานฯ แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวความรุ่งเรืองของราชธานีเก่าที่แสนจะน่าตื่นตาตื่นใจ ชนิดที่องค์การยูเนสโกยกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกไปเลยจ้า ถ้ายังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหน จองตั๋วเครื่องบินในประเทศมาสุโขทัยกันดูน้า ช่วงนี้ชิลล์มากเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มี อยากหาโลเกชั่นถ่ายรูปแบบใส่ชุดไทยจัดเต็ม หรือจะมาปั่นจักรยานเล่นลองกล้องฟิล์มก็เพลินทั้งนั้น มาเลย
11. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว – อุบลราชธานี
เป็นวัดที่สายบุญก็ได้มาไหว้พระอย่างตื่นตาตื่นใจ สายแชะก็รับรองได้ว่าต้องแฮปปี้ เพราะนี่คือวัดเรืองแสงบนยอดเขาที่ให้ฟีลราวกับอยู่บนเขาไกรลาศ และเป็นวัดที่ควรมาในช่วงที่แสงสลัวรัวรางไม่สว่างแบบเต็มที่ เพราะจะได้เห็นสีสว่างตื่นตาที่ทาอยู่บนลวดลายของผนังโบสถ์และพื้นโดยรอบ ซึ่งช่างที่สร้างนั้นได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากหนังเรื่องอวตาร! เก๋มั้ยล่ะ ว่ากันว่าถ้าอยากเห็นสีชัดๆ ต้องมองผ่านเลนส์นะจ๊ะ รับรองว่าสวยสะใจ
12. สะพานมอญ – กาญจนบุรี
นี่คือสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และยาวเป็นอันดับสองในโลกไปเลยจ้า ยาวกว่านี้ก็ต้องไปเมียนมาร์กันแล้วเด้อ สะพานแห่งนี้ทอดตัวเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำซองกาเลียกว้างใหญ่ ปลายสะพานเป็นหมู่บ้านชาวมอญและชาวไทยที่ส่วนใหญ่ยังคงดำเนินวิถีชีวิตในสไตล์ท้องถิ่นเอาไว้เป็นอย่างดี มาที่นี่ได้กลิ่นอายเหมือนไปประเทศเพื่อนบ้านหน่อยๆ นะ น่ารักน่าชังจะตาย มาหน้าหนาวคือเย็นสะใจ แต่ฤดูอื่นก็มาดื่มด่ำฟีลลิ่งสโลว์ไลฟ์กันได้สบายๆ เหมือนกันเด้อ
13. ทุ่งโปรงทอง – ระยอง
นี่คือป่าชายเลนผืนใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยองซึ่งกินพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ที่พลิกฟื้นจากผืนป่าที่เริ่มเสื่อมโทรมมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้แบบสวยงามสุดๆ ไปเลยจ้า โดยชาวบ้านร่วมกันสร้างสะพานไม้ความยาวกว่า 2 กิโลเมตรผ่านป่าชายเลนที่แสนสมบูรณ์เข้าไป จนเจอกับทุ่งกว้างซึ่งเป็นป่าต้นโปรงแน่นขนัด ตอนเช้ายอดไม้จะสะท้อนกับแสงแดดจนกลายเป็นสีทองอร่ามทั่วทั้งพื้นที่ ที่นี่เที่ยวกันได้ชิลล์ๆ ตลอดปีไปเลยจ้า มาเมื่อไหร่รับรองได้ว่าเพลิน
14. เขื่อนเชี่ยวหลาน – สุราษฎร์ธานี
อีกหนึ่งพิกัดที่ไปเมื่อไหร่ก็สวยเมื่อนั้น ก็ต้องยกให้กับเขื่อนเชี่ยวหลานหรือเขื่อนเขาสกนี่ละ เพราะที่นี่จะมีอากาศคล้ายคลึงกันเกือบตลอดทั้งปี โดยแต่ละฤดูจะมีความสวยที่แตกต่างกันไป ถ้าคุณเป็นสายกิจกรรมก็ต้องเลือกช่วงหน้าร้อนเพราะโอกาสเจอฝนจะค่อนข้างน้อยมาก แต่หากอยากเห็นหมอกหนาๆ บรรยากาศฉ่ำสบายก็ต้องไปหน้าฝน ส่วนช่วงหน้าหนาวซึ่งถือเป็นไฮซีซั่นก็บรรยากาศดีเชียวละ แต่นักท่องเที่ยวก็จะหนาตาเช่นกันนะ อยากได้บรรยากาศไหนก็จัดไปเลยจ้า
15. เขาค้อ – เพชรบูรณ์
เป็นที่รู้กันว่าตั้งแต่ช่วงปลายฝนต้นหนาวยาวต่อไปจนถึงก่อนเข้าหน้าร้อนนั้น เขาค้อคือพิกัดนึงซึ่งมักจะมีผู้คนไปเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นการไปนอนชิลล์ๆ ในรีสอร์ท หรือไปกางเต็นท์นอนแบบลุยๆ สบายๆ เพราะใครๆ ก็อยากไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ของที่นี่ทั้งนั้น แต่ถ้าไม่อยากแย่งกันเที่ยวกับใคร หน้าร้อนก็ไปเขาค้อได้น้า เพราะอากาศที่นี่จะเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี เพียงแต่อาจจะไม่ถึงกับหนาวปากสั่นเหมือนช่วงฤดูหนาวเท่านั้นเอง